ตามที่ปรากฏข่าวเผยแพร่ต่อสาธารณชนทุกแขนง กรณีเกิดอุบัติเหตุบนทางพิเศษเฉลิมมหานครเมื่อ วันที่ 8 มกราคม 2566 เวลา 01.00 น.รถยนต์ยี่ห้อ เบนท์ลีย์ สีเทา ทะเบียน 7 กค 3822 กทม. ชนกับรถยนต์ยี่ห้อ ปาเจโร่ สีดำป้ายแดงทะเบียน ณ 3830 กทม. ทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย ซึ่งจากภาพกล้องหน้ารถที่มีการเผยแพร่พบว่ารถยนต์เบนท์ลีย์ขับมาด้วยความเร็วและแซงไหล่ทาง หลังเกิดเหตุผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวได้พยายามหลบหนีโดยมีพลเมืองดีที่เป็นอาสากู้ภัยซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุได้ช่วยกันจับตัวผู้ขับขี่ไว้ได้พร้อมทั้งแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ทางด่วน ปรากฏว่าผู้ขับขี่รถยนต์เบนท์ลีย์ปฏิเสธที่จะตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ โดยหลังจากข่าวดังกล่าวเผยแพร่ออกไปมีโทรศัพท์ ไลน์ เฟสบุค สอบถามและแสดงความเห็นมาที่มูลนิธิเมาไม่ขับเป็นจำนวนมากส่วนใหญ่เกิดความสงสัยในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจว่าเหตุใดจึงไม่แจ้งข้อหาเมาแล้วขับกลับผู้ขับขี่รถเบนท์ลีย์ ในเมื่อความผิดฐานปฏิเสธการตรวจวัดแอลกอฮอล์สำเร็จตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกฉบับที่ 10/ พ.ศ 2557 มาตรา 43 (2) สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ปฏิเสธการตรวจวัดแอลกอฮอล์ให้ถือว่าขับขี่รถขณะเมาสุราแม้ไม่ยอมทดสอบ

ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว มูลนิธิเมาไม่ขับจึงมีหนังสือมายังท่าน เพื่อขอให้พิจารณาสั่งการให้พนักงาน

สอบสวนแจ้งข้อหาเมาแล้วขับกับผู้ขับขี่รถเบนท์ลีย์ที่ก่อเหตุ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เลือกปฏิบัติและพร้อมอำนวยความยุติธรรมให้กับทุกฝ่าย

​

ล่าสุดวันที่11 ม.ค.66ความคืบหน้า นักธุรกิจ ขับรถเบนท์ลีย์ชนท้ายรถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร่ เสียหลักไปชนรถดับเพลิง อปพร.บางรัก เสียหาย 3 คัน มีผู้บาดเจ็บ 6 คน บนทางพิเศษเฉลิมมหานคร ขึ้นจากถนนสุขสวัสดิ์มา 9-10 กิโลเมตร มุ่งหน้าดินแดง เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา

จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคม ทั้งเรื่องของคดีที่ยังคลุมเครือว่า เจ้าของรถเบนท์ลีย์ ไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ในจุดเกิดเหตุ แต่ท้ายที่สุด ตำรวจออกมาแถลงชี้แจง ว่า ได้ส่งชายคนดังกล่าว ไปตรวจเลือดเพื่อหาปริมาณแอลกอฮอล์ ในเลือด ที่โรงพยาบาลตำรวจ แล้ว

ผู้สื่อข่าวมีรายงานว่า ผลการตรวจสอบเลือดของผู้ขับขี่รถยนต์เบนท์ลีย์ จากโรงพยาบาลตำรวจ โดยผลการตรวจเลือดดังกล่าวแหล่งข่าวยืนยันว่า พบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดอยู่ไม่เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

ส่วนเรื่องการตรวจสอบความเร็วขณะนี้ยังอยู่ที่การตรวจสอบของสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลเร็ว ๆ นี้ ส่วนการตรวจสอบสารเสพติดขณะนี้ผลการตรวจยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการกำชับเร่งให้ตรวจสอบเรื่องของปริมาณแอลกอฮอล์ จึงทำให้ผลตรวจวัดแอลกอฮอล์ออกมาก่อน อย่างไรก็ตาม คาดว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะมีการแถลงรายละเอียดดังกล่าวต่อสื่อมวลชนในวันนี้ เนื่องจากเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน