เด็กน.ร.มัธยมร.ร.ดังรุมตืบจนม้ามฉีกก่อนชักอาวุธปืนตบหน้า
เมื่อเวลา 18.00 น วันที่ 23 มกราคม 66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนขอความเป็นธรรมจาก นางสาวณัฐกาญจน์ หรือทราย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี แม่ค้าขายข้าวหมกไก่ภายในซอยสามัคคี ต.ท่าทราย อ. เมือง จ. นนทบุรี ว่าบุตรชายซึ่งเป็นนักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนย่านปากเกร็ด และเป็นเด็กพิการสมาธิสั้น ได้ถูกกลุ่มนักเรียนชั้นมัธยมโรงเรียนภายในซอยวัดกู้ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ดจ.นนทบุรี รุมทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ม้ามฉีก เบ้าตาขวา ถูกด้ามปืนตีจนบวมเป่ง เกรงคดีจะไม่มีความคืบหน้าจึงร้องเรียนผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรม
นายกร (ขอสงวนชื่อจริงและนามสกุลจริง) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าเมื่อวันที่ 17 มกราคม 66 ที่ผ่านมาเวลา 16.00 น. ตนเองได้นัดแฟนสาวซึ่งเรียนอยู่โรงเรียนในซอยวัดกู้ให้ออกมาเดินเที่ยวบริเวณริมเขื่อนท่าน้ำหัวถนนปากเกร็ด พอถึงเวลาตนพร้อมด้วยเพื่อนนักเรียนชาย 2-3 คน จึงได้เดินทางไปที่จุดนัดพบระหว่างที่เดินเที่ยวกับแฟนสาวและเพื่อนๆได้ มีกลุ่มวัยรุ่น 6 คนแต่งชุดไปรเวท ไม่ได้ใส่ชุดนักเรียนทราบแต่เพียงว่าในกลุ่ม 4 คน เป็นนักเรียนในซอยวัดกู้ส่วนอีก 2 คนเป็นรุ่นพี่ที่จบออกไปแล้ว
โดยวัยรุ่นทั้ง 6 คนได้เดินตรงเข้ามาหาตนเองพร้อมทั้งสอบถามว่ามาทำอะไรที่นี่เหรอตนบอกว่ามาเดินเที่ยวหนึ่งในวัยรุ่นจึงตะโกนใส่ตนว่า "มึงโจ๋หรือ" จากนั้นทั้งหมดก็ลากตนเองไปที่ศาลาริมน้ำหัวถนนปากเกร็ด โดยมีวัยรุ่นคนหนึ่งในกลุ่ม ชักปืนแบบแม็กกาซีนสีเงิน ปลดแม็กโชว์ลูกกระสุนปืนให้ตนเองดูว่าเป็นของจริง ก่อน บรรจุแม็กใส่เข้าไปใหม่ แล้วใช้ด้ามปืนตบเข้าไปที่เบ้าตาขวาตนเองอย่างแรงโดยมีเพื่อนๆที่เหลือช่วยกันรุมทำร้ายและกระทืบตนเองอย่างหนำใจ
ต่อมาทั้ง 6 คนได้พาตนซ้อนจักรยานยนต์ไปที่หมู่บ้านเอื้ออาทร 2 (วัดกู้)ไปที่อาคารหรือตึกไหนตนเองจำไม่ได้เพราะตอนนั้นอยู่ในสภาพที่แทบจะสลบไสลไม่ได้สติแล้วมีอาการปวดหัวมึนงงไปหมด ทราบแต่เพียงเป็นลานจอดรถจยย. ที่ตึกแห่งหนึ่ง ถูกคุมตัวไว้ที่นี่นานกว่า 1 ชั่วโมงจนคุณพ่อของตนเองทราบเรื่องจึงได้รีบมารับตัวตนเอง และพาไปส่งโรงพยาบาล
ส่วนวัยรุ่นที่ทำร้ายตนพากันหลบหนีไป ตนก็ไม่เคยรู้จักพวกที่ทำร้ายตนเลยเพราะก่อนที่ตนจะถูกทำร้ายเพื่อนในกลุ่มของตนคนหนึ่งรู้จักกับกลุ่มของคนที่ทำร้าย ตนยังยกมือไหว้พวกเขาเลย แต่ก็ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลใดพวกเขาถึงมาทำร้ายตนจนเจ็บขนาดนี้ ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวให้ได้จะได้นำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ด้วย
ขณะที่คุณแม่ทราย เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นตนรู้สึกเสียใจมากลูกตนตนเองรักมากพอเห็นเขาถูกทำร้ายก็รู้สึกเสียใจโดยเฉพาะเขาเป็นเด็กนักเรียนพิการสมาธิสั้น เรียนอยู่แค่ชั้น ม.3 โรงเรียนชลประทานวิทยา อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีช่วยติดตามคนที่ทำร้ายลูกชายมาดำเนินคดีให้ด้วยเพราะเหตุการณ์ผ่านมาอาทิตย์กว่าแล้วยังไม่มีความคืบหน้าใดๆเลย แม่เองก็ไม่ทราบว่าเขามาทำร้ายลูกทำไม แถมยังเอาปืนมาตบใส่ใบหน้าจนเบ้าตาบวมเป่ง
ตำรวจก็ยังจับคนก่อเหตุไม่ได้ เกรงว่าจะไปทำร้ายคนอื่นแบบนี้อีก ตนก็ไม่เข้าใจหลังก่อเหตุรุมทำร้ายลูกตนเองแล้วทำไมต้องเอาตัวขึ้นรถจยย.ไปไว้ที่หมู่บ้านเอื้ออาทร 2 (วัดกู้) โชคดีที่คุณพ่อของน้องทราบจากเพื่อนๆจึงตามไปเจอลูกชายและนำตัวกลับมาได้ในสภาพสะบักสะบอม ถูกทำร้ายอย่างหนักต้องเข้านอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า นานกว่า 1 อาทิตย์ หมอบอกว่าถูกทำร้ายบาดเจ็บจนม้ามฉีก ส่วนเบ้าตาขวาบวมเปล่ง เพราะถูกด้ามปืนตบ ยืนยันจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด
ทางด้าน พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถียร รรท.สภ.ปากเกร็ด เปิดเผยว่า เบื้องต้นวันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากที่อาการบาดเจ็บของด.ช.กรวิญซ์ดีขึ้น ส่วนในด้านคดีตอนนี้ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.ปากเกร็ด ลงพื้นที่เกิดเหตุดูกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีของผู้ก่อเหตุ
จากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นเยาวชนทางตำรวจจะดำเนินการประสานไปยังทางโรงเรียนของผู้ก่อเหตุเพื่อให้ทางโรงเรียนประสานไปยังผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุให้รับทราบ ก่อนจะเชิญตัวมาสอบปากคำตามกระบวนการตามกฎหมายต่อไป