สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารท รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา ผบก.ตม.3.พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด รอง ผบก.ตม.3.และ พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3.ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคดีที่น่าสนใจดังนี้

ก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.3 ได้สืบสวนหาข่าว นายชัชชัยหรือแน็ค(สงวนสกุล) อายุ 22 ปี สัญชาติไทย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดอุทัยธานี ที่ จ.170/2565 ลง 1 ธ.ค. 2564 ข้อหา ฉ้อโกง, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง

และยังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ จ.186/65 ลง 26 ก.ย. 65 ข้อหา ฉ้อโกง, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง อีก 1 คดี

โดยพบว่าหลบหนีมามาสมัครทำงาน รปภ.ที่บริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา จึงได้เข้าไปสืบสวนและเฝ้าติดตาม

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 65 เวลาประมาณ 23.00 น. พบคนร้ายรายนี้ทำงานอยู่ที่ คอนโดแหน่งหนึ่งในตัวเมืองฉะเชิงเทรา จึงได้เข้าไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริง จึงได้แสดงหมายจับทั้ง 2 หมายให้ตรวจดูผู้ต้องยอมรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันจริง จึงได้จับกุมตัวนำส่งดำเนินคดีต่อไป

จากการซักถามทราบว่า นายชัชชัย ฯ มีความเกี่ยวข้องโดยได้รับจ้างจากเพื่อนให้เปิดบัญชีม้าได้รับค่าตอบแทนเป็นเงิน 500 บาท ต่อบัญชี โดยรับว่าเปิดจำนวน 2 บัญชี ส่วนทางคดีนั้นในรายคดีของ สภ.บ้านโคก จว.เพชรบูรณ์ มีผู้เสียหายจำนวน 1 คน ความเสียหาย 5000 บาท

ซึ่งในส่วนอื่นๆจะต้องมีการตรวจสอบขยายผลทางคดีเพื่อให้ทราบจำนวนผู้ที่เสียหายและมูลค่าที่เสียหายเพื่อดำเนินการที่เกี่ยวข้องต่อไป

พล.ต.ต.มานัดฯ ผบก.ตม.3 ได้กล่าวเสริมว่า กรณีดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ภาคภูมิฯ ผบช.สตม.ที่เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ สตม.กวดขันและบังคับใช้กฎหมาย ระดมกวาดล้างความผิดต่างๆ โดยเฉพาะความผิดออนไลน์ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่พี่น้องประชาชนในวงกว้าง